ช้อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงแรม & รีสอร์ท ตั๋วเครื่องบิน & ท่องเที่ยว ออนไลน์ น้ำมัน & รถยนต์ มือถือ & อุปกรณ์เสริม โรงพยาบาล สุขภาพ & ความงาม กีฬา เครื่องใช้ไฟฟ้า บ้าน & คอนโด เฟอร์นิเจอร์ & อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน หนังสือ งานอดิเรก & บันเทิง สิทธิพิเศษประกันภัย สิทธิพิเศษต่างจังหวัด สิทธิพิเศษต่างประเทศ บริจาค การศึกษา การหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ & การเดินทาง บัตรกดเงินสด อื่นๆ
คงเถียงไม่ได้ว่าการซื้อของออนไลน์เริ่มเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนทำกัน การชำระเงินก็เช่นกัน การใช้บัตรเครดิต/บัตรเดบิตในการจ่ายเงินก็เป็นวิธีการชำระเงินอันดับต้นๆที่ผู้ซื้อนิยมใช้ แต่มีคนไม่น้อยที่ยังกังวลในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลและบ่อยครั้งเราก็ยังได้ยินข่าวของความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการรั่วไหลของข้อมูล แล้วเราจะมีวิธีการใช้บัตรเครดิต/เดบิต ในการชำระเงินออนไลน์กันอย่างไรให้ปลอดภัย ไปดูกันค่ะ 1. เลือกซื้อสินค้ากับเว็บไซต์ที่ติดตั้งระบบความปลอดภัย SSL เท่านั้น สังเกตง่ายๆจาก URL ของเว็บไซต์นั้นจะต้องเป็น และมีรูปกุญแจสีเขียวเเสดงอยู่คู่กัน ระบบความปลอดภัยนี้จะทำการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของคุณ ทั้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต และรหัสผ่านต่างๆให้ไม่ถูกขโมยหรือเปิดเผย Page365SSLsecurity-2 2. บริการรับบัตรของเว็บนั้นต้องผ่านมาตรฐานระดับโลกอย่าง PCI-DSS PCI-DSS เป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเพื่อรักษาความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลผู้ถือบัตร ทั้งหมายเลขหน้าบัตร ชื่อเจ้าของบัตร วันหมดอายุ และรหัสหลังบัตร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเว็บของของออนไลน์ที่ผ่านมาตรฐานนี้มักจะลงข้อมูลส่วนนี้ในเว็บไซต์อยู่แล้ว วิธีตรวจสอบง่ายๆ คือ google search โดยการพิมพ์ ชื่อเว็บ และตามด้วย PCI DSS หากเว็บนั้นแสดงมาตรฐาน PCI DSS คุณก็มั่นใจในความปลอดภัยได้อีกระดับ 3.
8 วิธีซื้อของด้วยบัตรเครดิตผ่าน "อินเทอร์เน็ต" อย่างปลอดภัย รู้หรือไม่ว่าสินค้าที่ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตมักมีราคาถูกกว่าสินค้าที่ซื้อตามหน้าร้าน? เดี๋ยวนี้เทรนด์การซื้อของผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย ยิ่งตลาดเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ มิจฉาชีพก็ยิ่งแสวงหาวิธีการโกงเพื่อหาผลประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น หากคุณเป็นคนที่ซื้อของออนไลน์เป็นประจำ นี่คือเคล็ดลับ 8 ข้อที่สามารถช่วยคุณได้ 1. ใช้บัตรเครดิต อย่าใช้บัตรเดบิต กฎข้อแรกของการซื้อของออนไลน์คือ ใช้บัตรเครดิต เพราะบัตรเครดิตมีนโยบายป้องกันที่ดีกว่าบัตรเดบิต และหากเป็นไปได้ให้ใช้บัตรเครดิตที่เชื่อมต่อกับบัญชีของ Paypal เพราะขั้นตอนการเรียกขอเงินคืนนั้นสะดวกและง่ายกว่ามาก 2. มองหาตัว ' S' ก่อนที่จะทำการจ่ายเงินให้ตรวจสอบคำว่า บนหน้าเวบไซต์ที่คุณกำลังใช้งาน หากมีตัว ' S' ต่อท้าย () แปลว่าเวบไซต์นั้นมีระบบความปลอดภัยรองรับ แม้ว่ายังคงมีความเสี่ยง แต่ก็น้อยกว่าเวบไซต์ที่ไม่มี 3. อย่าซื้อของออนไลน์ด้วยคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตสาธารณะ หากเป็นไปได้พยายามอย่าใช้จ่ายออนไลน์ในร้านอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์สาธารณะ หรือ อินเทอร์เน็ตสาธารณะ เพราะคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้อาจจะจดจำเลขบัญชี หรือคุณอาจลืมล็อกเอาท์ หรือ ถึงแม้จะล็อกเอาท์แล้ว แต่บรรดาแฮคเกอร์ก็ยังสามารถแฮคเอาข้อมูลของคุณได้ กระทั่งการใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุคหรือแท็บเล็ตต่ออินเตอร์เนตสาธารณะก็ยังไม่ปลอดภัยเพราะแฮคเกอร์ยังคงสามารถขโมยข้อมูลของคุณได้เช่นกัน 4.