การ สอบ ก ส พ ท
- กำหนดการ เรื่องที่ออกสอบ และเกณฑ์การรับสมัคร กสพท #dek64 | AdmissionPremium.com
- การสอบ กสพท
- กสพท. คืออะไร? ใครต้องสอบ? รวมสาระควรรู้ เกี่ยวกับ กสพท. - TCASter
6 จะส่งแค่เพียงใบ ปพ. 7 (ใบรับรองผลการศึกษา) ส่วนน้องๆ ที่จบการศึกษาแล้ว จะใช้ ปพ. 1:พ (ระเบียนแสดงผลการเรียน) หรือ ปพ. 2 (ใบประกาศนียบัตร) หากเป็นน้องๆ ที่กำลังศึกษาที่สูงกว่าปีที่ 1 ต้องใช้เอกสารอนุมัติการลาออกแนบมาด้วยนะ สรุปเอกสารที่ต้องเตรียมในการสมัคร สำหรับน้องๆ ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 1. รูปถ่ายของผู้สมัคร 2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3. สำเนาเอกสารคุณวุฒิการศึกษา - ปพ. 7 ( ใบรับรองผลการศึกษา) ที่มีตราโรงเรียนประทับ และผ่านการรองรับเอกสารโดยนายทะเบียนหรือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา สำหรับน้องๆ ที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้ว - ปพ. 1:พ (ระเบียนแสดงผลการเรียน) หรือ ปพ. 2 (ใบประกาศนียบัตร) - ใบลาออกจากการเป็นนิสิตนักศึกษา (ในกรณีที่ศึกษาเกินชั้นปีที่ 1 ในมหาวิทยาลัยรัฐ) - ในกรณีที่กำลังศึกษาในระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ 1 ให้ส่งสำเนาบัตรประจำตัวนิสิต/นักศึกษามาด้วย
กำหนดการ เรื่องที่ออกสอบ และเกณฑ์การรับสมัคร กสพท #dek64 | AdmissionPremium.com
4-8 มิถุนายน 2563 สอบสัมภาษณ์ 4-8 มิถุนายน 2563 กสพท ส่งรายชื่อผู้ผ่านการสอบสัมภาษณ์ 9 มิถุนายน 2563 ทปอ. ประกาศรายชื่อผู้ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา 10 มิถุนายน 2563 ประกาศ กสพท ฉบับที่ 1 >> ไฟล์แนบ ประกาศ กสพท ฉบับที่ 2 >> ไฟล์แนบ การเตรียมเอกสาร >> คลิก คุณสมบัติเฉพาะของแต่ละสาขา >> คลิก ก่อนสมัคร เราก็มาเตรียมเอกสารกันให้เรียบร้อยกันดีกว่า.. เพราะเอกสารต่างๆ นี้น้องๆ จะต้องอัปโหลดเข้าระบบการสมัครด้วย หากไม่สมบูรณ์หรือเอกสารผิดก็จะสมัครไม่ผ่าน เสียเวลาที่พวกเราต้องนั่งแก้ไขกันไปอีก พร้อมกันหรือยัง มาเตรียมเอกสารไปพร้อมกันเถอะ!
ไม่มีปัญหาสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพแพทย์หรือทันตแพทย์หรือสัตวแพทย์หรือเภสัชกร ตามแนวทางคุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัครเข้าเรียนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรสัตวแพทยศาสตร์บัณฑิต และหลักสูตรเภสัชศาสวตรบัณฑิต ของ กสพท (ดูรายละเอียดในเว็บไซต์) 9. สำหรับวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติมเพื่อเป็นนักเรียนแพทย์ทหารหรือนักศึกษาแพทย์ ตามที่ทางวิทยาลัยฯ กำหนด ดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ ได้ที่ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม พ. 2563 สมัครสอบวิชาเฉพาะของ กสพท 2-20 พฤษจิกายน 2563 ผู้สมัครตรวจสอบสถานภาพการสมัครสอบ หลังจากวันที่ชำระเงินค่าสมัครแล้ว 7 วัน หากพบเอกสารไม่สมบูรณ์ให้ทำการแก้ไขก่อนเวลา 16. 00 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ยื่นคำร้องในกรณีที่ไม่มีสิทธิเข้าสอบวิชาเฉพาะ ของ กสพท วันที่ 8-14 ธันวาคม 2562 สมัครสอบ O-NET โรงเรียนส่งรายชื่อให้ สอบวิชาเฉพาะ กสพท 10 เมษายน 2563 สมัครสอบ 9 วิชาสามัญ 5 – 19 ธันวาคม 2562 กสพท ประกาศคะแนนวิชาเฉพาะ 27 เมษายน 2563 ผู้เข้าสอบยื่นคำร้องขอตรวจสอบคะแนนวิชาเฉพาะ 27-28 เมษายน 2563 ประกาศผลสอบ O-NET สมัครผ่านระบบ TCAS และชำระค่าสมัครตามจำนวนสาขาวิชาที่เลือก (เลือกสูงสุดได้ 6 วิชา) 7-15 เมษายน 2563 ผู้สมัครเข้าไปตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพในระบบของ ทปอ.
การสอบ กสพท
6 และเทียบเท่า (ปีการศึกษาปัจจุบัน): ไม่สามารถสมัครได้ เด็กซิ่ว, จบ ป. ตรี: สมัครได้ (ไม่ใช้เกณฑ์ O-NET ในการคัดเลือก) สมัครสอบ กสพท. ได้ทางไหน? 1. คะแนน O-NET: น้องๆ ม. 6 โรงเรียนสามัญ ไม่ต้องสมัคร น้อง ๆ เทียบเท่า สมัครเอง สมัครได้ทาง สทศ. 2. คะแนนวิชาเฉพาะแพทย์: ทุกคนต้องสมัครผ่าน กสพท ช่วงเดือนตุลาคม 3. คะแนน 9 วิชาสามัญ (สมัครสอบ 7 วิชา ไทย, สังคม, อังกฤษ, คณิต 1, ฟิสิกส์, เคมี และชีววิทยา) สมัครผ่าน สทศ. สมัคร กสพท. ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณเท่าไหร่? ขั้นตอนการคัดเลือก กสพท. เป็นอย่างไร? *กำหนดการคัดเลือก กสพท. ปีการศึกษา 2564 สามารติดตามได้ทาง: ข้อมูลที่ควรทราบเกี่ยวกับ กสพท. สมัครและติดตามข่าวสารได้ทาง: คลิก สถิติคะแนนสูงสุดต่ำสุด กสพท. ย้อนหลัง: คลิก ขอบคุณข้อมูล: ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก. ค. 63
ไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย/ สถาบันการศึกษาของรัฐ เว้นแต่ได้รับการอนุมัติให้ลาออกจากการศึกษาจากมหาวิทยาลัยก่อนวันที่ 30 เมษายน พ. ศ. 2564 ในหลักสูตร 5. 1 หลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต สำหรับผู้สมัครในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต 5. 2 หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต สำหรับผู้สมัครในหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต 5. 3 หลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต สำหรับผู้สมัครในหลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต 5. 4 หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต สำหรับผู้สมัครในหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต 6. ไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาเกินชั้นปีที่ 1 ในมหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษาของรัฐ ยกเว้น ผู้ได้รับการอนุมัติให้ลาออกจากการศึกษา โดยได้รับการอนุมัติให้ลาออกจากมหาวิทยาลัยที่ศึกษาก่อนวันที่ 16 พฤษจิกายน พ. 2563 และผู้ที่คาดว่าจะจบการศึกษาระดับอุดมศึกษาในปีการศึกษา 2563 (ผู้ที่ศึกษาเกินชั้นปีที่ 1 หมายถึง ผู้ที่มีสถานภาพนิสิต/นักศึกษาเกินกว่าชั้นปีที่ 1 อันได้แก่ ผู้ที่ได้ลงทะเบียนในรายวิชาบังคับของชั้นปีที่ 1 หรือผู้ที่มีสิทธิ์ลงทะเบียนในรายวิชาบังคับตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 ขึ้นไปแม้จะได้ลาพัก/ได้รับอนุมัติให้ลาพักการศึกษาแล้ว) 7. ไม่เป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกและยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาในสถาบันที่เข้าร่วมการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง (TCAS) ในรอบที่ 1 แฟ้นสะสมผลงาน หรือในรอบที่ 2 โควตา 8.
กสพท. คืออะไร? ใครต้องสอบ? รวมสาระควรรู้ เกี่ยวกับ กสพท. - TCASter
- เบอร์ ธนาคาร กรุง ไทย สาขา ใหญ่
- ล้อ กล้วย 15 4.10.9
- ผล หวย ลาว 25 9 62 20
- 'พรีบิลท์'เดินหน้าลงทุนอสังหาฯปีนี้ 4 โครงการ - The Bangkok Insight
- ยาง 235/45 R18 ราคา โปรโมชั่น และสเปค
- กำหนดการ เรื่องที่ออกสอบ และเกณฑ์การรับสมัคร กสพท #dek64 | AdmissionPremium.com
- กางเกงผู้ชาย ขาเต่อ ราคาถูก ซื้อออนไลน์ที่ Lazada.co.th
- เนื้อว่านหลวงพ่อไกรพิมพ์คนธรรพ์ วัดลำพะยา ปี2513
- Ne zha 2019 นา จา
- วิธีแก้ไขปั๊มน้ำไม่ตัด ทำงานตลอด ปรับเพรสเชอร์สวิตซ์ (How to fix the water pump not working forever) - YouTube
- การ์ตูน ไทย อ นิ เม ชั่ น
กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท) ได้เข้าร่วมการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง (TCAS) ปีการศึกษา 2564 โดยรับในรอบที่ 3 Admission1 & Admission2 ซึ่ง ทปอ. จะเป็นหน่วยกลางในการรับสมัครผ่านทางเว็บไซต์ของ ทปอ. และกำหนดเทียบให้ กสพท เสมือนหนึ่งเป็น 1 มหาวิทยาลัยที่มี 55 สาขาวิชาภายใต้ กสพท และกำนหนดให้แต่ละสาขาวิชา เป็น 1 ใน 10 อันดับของ ทปอ. ที่น้องๆ สามารถเลือกได้ตามที่ ทปอ. กำหนดสำหรับการคัดเลือกรอบที่ 3 1. เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง มีความละเอียดรอบคอบ ซื่อสัตย์สุจริต ที่สามารถแสดงให้เห็นได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครสอบ การสอบข้อเขียน การสัมภาษณ์ และตรวจสุขภาพ 2. เป็นผู้ที่สมัครหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต และหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต ต้องสำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาในสายวิทยาศาสตร์หรือเทียบเท่า เท่านั้น 3. เป็นผู้มีสัญชาติไทย ยกเว้นผู้ที่สมัครเข้าศึกษาในสถาบันเอกชนที่เข้าร่วมกับ กสพท 4. เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะไปปฏิบัติงานในส่วนราชการหรือหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ตามระเบียบของทางราชการ เรื่องการปฏิบัติงานชดใช้ทุน สำหรับผู้สมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัญฑิต และหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต ยกเว้นผู้ที่สมัครเข้าศึกษาในสถาบันเอกชนที่เข้าร่วมกับ กสพท 5.
กสพท. ที่ได้ยินกันคุ้นหูหรือเรียกจนติดปาก คือชื่อย่อ กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของคณะแพทยศาสตร์ 13 สถาบัน คณะทันตแพทยศาสตร์ 7 สถาบัน และคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ 6 สถาบัน ซึ่งการสอบนี้มักจะเรียนกันโดยทั่วไปว่า รับตรงแพทย์ กสพท. สาเหตุที่สนาม กสพท. มีความสำคัญอย่างมากนั่นก็เพราะว่าคณะแพทยศาสตร์จะไม่มีการเปิดรับในระบบแอดมิชชัน ขณะเดียวกันจำนวนเปิดรับผ่านรับตรง กสพท. ก็มีสัดส่วนที่สูง โดยขอหยิบยกข้อมูลปี 58-59 มาให้ดูกันค่ะ ตารางจำนวนรับผ่านระบบ กสพท. (ข้อมูลปี 58- 59) เห็นได้ว่าจำนวนที่เปิดรับคณะแพทยศาสตร์จะอยู่ในกรอบ 1191 – 1215 ที่นั่ง ถือว่ามีจำนวนที่สูง คณะทันตแพทย์ก็จะโดนขึ้นมาหลัก 270 ที่นั่ง ส่วนคณะสัตวแพทยศาสตร์เพิ่งเริ่มเข้า กสพท. เมื่อปี 59 แต่จากตารางที่แสดงมานั้นก็พอจะทำให้เราตระหนักได้ทันทีว่าสนามนี้สำคัญกับว่าที่แพทย์จริงๆ อย่างไรก็ตามเงื่อนไขการสมัครสอบ กสพท. มีข้อที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือ เด็กศิลป์ สามารถสอบกสพท. ในกลุ่มแพทยศาสตร์ได้ (ทันตะฯ กับ สัตวแพทย์ ปี 59 เด็กศิลป์ยังสอบแข่งขันด้วยไม่ได้ … ต้องรอเช็คข้อมูล กสพทปี 60 ให้ดี) เด็กซิ่ว … ถ้ายังเรียนอยู่ปี 1 ก็สมัครสอบได้ ไม่ต้องลาออก ไม่ใช้ GPAX หรือ เกรดเฉลี่ย ในการคำนวณคะแนน โดยจะวัดจากการสอบความถนัดแพทย์และ การสอบ 7 วิชาสามัญ ดังนั้นใครที่เกรดแย่ๆ ยังกลับตัวกลับใจทัน สนามนี้เขาให้โอกาสจริงๆ สมัครปุ๊บ ได้รับสิทธิ์จัด 4 อันดับปั๊บ น้องจะต้องเลือก 4 อันดับ คณะใดจากสถาบันใดก็ได้โดยที่ยังไม่เห็นคะแนนสอบของตนเอง เพราะฉะนั้นวางแผนการเลือกให้เหมาะคือสิ่งสำคัญเลยนะคะ สอบ กสพท.
ใช้คะแนนกี่ส่วน แต่ละส่วนสอบอย่างไรบ้าง ตรงนี้คือสิ่งที่สำคัญมากทั้งการทำความเข้าใจ การทบทวนหนังสือ การลำดับความสำคัญในการเตรียมตัวสอบ เพราะ ติดไม่ติดแพทย์ กสพท. วัดจากองค์ประกอบ 2+1 อันได้แก่ 1. วิชาเฉพาะ หรือ วิชาความถนัดแพทย์ คือวิชาที่สมัครสอบพร้อมสมัคร กสพท. ใช้เป็นสัดส่วนทั้งหมด 30% โดยประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้ 1. 1 เชาว์ปัญญา เช่น คณิตศาสตร์ อนุกรมเลข อนุกรมภาพ การอ่านจับใจความ เป็นต้น 1. 2 จริยธรรมทางการแพทย์ ซึ่งไม่มีสอนในห้องเรียน 1. 3 ทักษะการเชื่อมโยง คล้ายๆกับ GAT ที่ก็มีส่วนที่แตกต่างกันอยู่บ้างนะคะ สัดส่วนคะแนนของวิชาความถนัดแพทย์ถือเป็นวิชาที่มีค่าน้ำหนักสูงที่สุด น้องจึงต้องวางแผนและเตรียมตัวให้ดี 2. วิชาสามัญ คือการสอบที่จัดสอบโดย สทศ. ใช้ 7 วิชา ในสัดส่วน 70% ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ) มีน้ำหนักคะแนน 40% คณิตศาสตร์ 20% ภาษาอังกฤษ 20% ภาษาไทย10% สังคมศึกษา 10% โดยมีเกณฑ์ที่ต้องสอบได้เท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 30 ทุกกลุ่มสาระวิชา 3. O-NET ม. 6 ข้อสอบวัดมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน โดย O-NET จะไม่ได้นำมาเป็นสัดส่วนในองค์ประกอบการคิดคะแนน แต่น้องจะต้องทำคะแนนรวมทุกวิชาไม่ต่ำกว่า 60% ดังนั้นประเภทการสอบนี้ไม่ได้เช่นกัน